The Godfather Part II

user posted image

Part II ย้อนรอยแห่งความยิ่งใหญ่....และยุคเรืองอำนาจ

เด็กชาย วีโต้ คอลิโอเน่ วัยเพียง 9 ขวบ ต้องร่อนเร่พเนจรเข้ามาสู่นครนิวยอร์คโดยลำพัง หลังจากที่ต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุนจากการไล่ล่าของเจ้าพ่อท้องถิ่นแห่งชิชิลี ทั้งพ่อ แม่ และพี่ชายต้องจบชีวิตลงเพียงเพราะอุดมการณ์ที่ขัดแย้ง โลกใบใหม่แห่งนี้ช่างดูกว้างใหญ่ไพศาลนัก จึงต้องอาศัยความเข้มแข็งแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นจึงจะอยู่รอดได้และโชคชะตาได้ลิขิตเอาไว้แล้วว่า เขาเกิดมาเพื่อเป็น " Godfather "

user posted image user posted image

เมื่อโดนข่มเหงข่มขู่และถูกเอาเปรียบ ทางแก้ไขปัญหาก็คือหยิบยื่นข้อเสนอที่ปฎิเสธไม่ได้ ถ้าคิดที่จะปฎิเสธวิญญานของคนผู้นั้นคงต้องออกจากร่างอย่างแน่นอน

user posted image user posted image

ขอเพียงกระทำการโดยรอบคอบ ชีวิตจะไม่มีวันจมสู่ดิน ขอเพียงมีอำนาจ โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะแคบและเล็กลง

user posted image user posted image

ฉันกลับมาแล้ว...กลับมาอย่างภาคภูมิ
ฉันกลับมาแล้ว...กลับมาทวงถามความหลัง
ฉันกลับมาแล้ว...กลับมาอย่างเคียดแค้นชิงชัง
ฉันกลับมาแล้ว...กลับมาฝังความอาดูร


user posted image user posted image

user posted image user posted image

ในวัยที่ใกล้เคียงกัน ไมเคิล คอลิโอเน่ มีฐานกำลังที่เข้มแข็งยิ่งนัก แต่ความร้าวฉานที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบระหว่างเขาและเคย์ได้เดินมาจนถึงจุดวิกฤติ หรือชีวิตของเขาจะต้องพบกับความเดียวดาย เพื่อแลกกับความยิ่งใหญ่ ทิฐิและตาอันมืดบอดหลงใหลอยู่ในอำนาจที่ดูเหมือนจะต้องการไม่รู้จบสิ้น

user posted image user posted image

ลืมแม้กระทั่งความผูกพันของสายเลือด ขอเพียงผู้นั้นกระทำการทรยศหักหลัง จะไม่ยอมเก็บมันไว้และจะไม่ยอมหายใจอากาศเดียวกัน

user posted image user posted image

ความตายนับไม่ถ้วน ที่ Godfather หยิบยื่นให้ล้วนแล้วแต่เป็นเสี้ยนหนามที่คอยขวางทางสู่ความยิ่งใหญ่ ผู้ที่ฉลาดกว่าเท่านั้นจึงจะสามารถอยู่รอดได้ แต่อำนาจที่มีก็ไม่อาจทดแทนและช่วยลดความอ้างว้างที่เริ่มเกาะกินใจจนเกิดเป็นแผลฉกรรจ์ลงได้เลย

user posted image user posted image

********************************************************************

ในภาคนี้ Fransis ใช้วิธีการดำเนินเรื่องแบบย้อนกลับไปให้เห็นถึงเส้นทางเดินของ Godfather คนละยุคสมัยในช่วงอายุที่ไล่เลี่ยกันระหว่าง วีโต้ และ ไมเคิล เพื่อตอกย้ำความคล้ายคลึงกันในการตัดสินใจ นิสัยที่เด็ดเดี่ยวใจถึง ฉลาด สุขุมและรอบคอบ อันเป็นคุณสมบัติของผู้ที่ก้าวเข้ามาใช้ชีวิตแบบมาเฟีย

เราจะได้เห็นความเป็น Fransis ที่ชัดเจนขึ้น ภาคนี้จะรู้สึกได้ว่าเหมือนได้นั่งดูชีวประวัติของคนๆหนึ่ง ซึ่งฟ่าฟันอุปสรรคเพื่อกรุยทางสู่ความยิ่งใหญ่ได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละคร การที่ Fransis เลือก โรเบิรต เดอ นีโร มารับบทของ แบรนโดในตอนหนุ่ม เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและยอดเยี่ยม เพราะ เดอ นีโร ทำให้เราเชื่อจริงๆว่าเขาคือ วีโต้ คอลิโอเน่ ซึ่งถ้าเราย้อนกลับไปดูในภาคแรก ทั้งบุคลิกและสีหน้าท่าทางของ เดอ นีโร ล้วนสอดคล้องกับ แบรนโด อย่างแนบเนียน ส่วนอัล ปาชิโน แสดงออกทางแววตาได้ลุ่มลึก มีหลายต่อหลายฉากที่สะกดใจผู้เขียนแบบอยู่หมัด และสิ่งที่ลืมไม่ได้คือจังหวะของธีมที่ใส่ลงไปในหนัง ช่างกลมกลืนและทำให้หนังเข้าขั้นคลาสสิคไปอย่างไม่มีข้อกังขา

ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษสำหรับช่วงเวลาของ ดอน วีโต้ เนื่องจากเป็นยุคที่เขาได้บุกเบิกฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆด้วยความสามารถเฉพาะตัว ลึกๆแล้วเขาดูเป็นคนที่มีพื้นฐานทางจิตใจดี เพียงแต่เขาตัดสินใจเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาในทางที่ผิด และได้ทำให้ก้าวเข้าไปสู่วังวนของผู้กระทำผิดกฎหมาย และเป็นจุดเริ่มต้นของ Godfather โดยแท้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น